4218 จำนวนผู้เข้าชม |
เคยสังเกตไหมคะว่า เวลาพาน้องแมวไปหาหมอ ทำไมคุณหมอจึงต้องเปิดช่องปากของน้องแมวตลอดเลย? เหตุผลเพราะปัญหาของช่องปาก ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นปาก เหงือกอักเสบ หรือมีแผลเกิดขึ้นภายในช่องปาก นั้นเป็นกลุ่มอาการที่สำคัญและสามารถบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพของแมวที่ซ่อนเร้นอยู่ได้ค่ะ
“โรคช่องปากอักเสบในแมว” พบได้ในแมวทุกช่วงอายุ ทุกเพศ และทุกสายพันธุ์ จะเรียกว่าเป็นโรคฮิตสำหรับแมวอีกโรคหนึ่งก็ว่าได้ค่ะ
โรคช่องปากอักเสบนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
การติดเชื้อไวรัสในกลุ่มหวัดแมว (Feline calicivirus)
การติดเชื้อไวรัสลิวคีเมีย (Feline leukemia virus)
การติดเชื้อไวรัสเอดส์แมว (Feline immunodeficiency virus)
การติดเชื้อแบคทีเรีย การสะสมของคราบหินปูน เนื้องอก โรคความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน หรือแม้กระทั่งโรคไต ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบภายในช่องปากได้
อาการบ่งชี้ของโรคช่องปากอักเสบ ได้แก่
กินอาหารลดลง
เก็บตัว
มีกลิ่นปาก
น้ำลายไหลยืด
น้ำลายมีหนองหรือเลือดปน
เหงือกบวมแดง
ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้กรามโต
ซึ่งหากพบความผิดปกติเหล่านี้ เจ้าของควรพามาพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและหาแนวทางในการดูแลรักษาโดยเร็วเพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงที เพราะหากปล่อยจนกินอาหารไม่ได้เป็นเวลานาน น้ำหนักก็จะลดลงและสภาพร่างกายก็จะยิ่งทรุดโทรมลงเรื่อยๆ การรักษาก็จะยิ่งทำได้ยากค่ะ โดยวิธีการในการรักษาช่องปากอักเสบ มีหลากหลายวิธี เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาลดอักเสบ ยากดภูมิคุ้มกัน ยากระตุ้นภูมิคุ้นกัน เลเซอร์ การขูดหินปูน การถอนฟัน เป็นต้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค รอยโรค และความรุนแรงของการอักเสบที่เกิดขึ้น
การดูแลสุขภาพช่องปากของน้องแมวควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเช่นเดียวกันกับคนเราค่ะ วิธีที่สามารถทำได้คือ การแปรงฟันหรือทำความสะอาดฟันด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงเพื่อลดการสะสมของคราบหินปูน การล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ (normal saline) หรือน้ำยาบ้วนปากเพื่อกำจัดแบคทีเรีย (chlorhexidine mouthwash) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของน้องแมวและให้เวลาน้องแมวได้คุ้นชินกับหัตถการที่เราทำด้วยนะคะ เนื่องจากความเครียดเองก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมวได้เช่นกันค่ะ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับแมวไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแค่เราใส่ใจและคอยสังเกตช่องปากของเจ้าเหมียวว่าเกิดความผิดปกติหรือไม่ เพียงเท่านี้เจ้าเหมียวของเราก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของโรคเหงือกอักเสบและอาการเจ็บป่วยต่างๆแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น....อย่าลืมหมั่นสังเกตและดูแลสุขภาพช่องปากของน้องแมวกันนะคะ
..............................................................
บทความโดย...สพ.ญ. วรรษมน หมอยาดี
Photo credit: Vetfolio, GoodFon, Today's veterinary practice.