31317 จำนวนผู้เข้าชม |
เริ่มต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี เรียกได้ว่าเข้าสู่ฤดูฝนอย่างแท้จริง บางพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มมีปริมาณของเม็ดฝนที่โปรยปรายเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากความเย็น สดชื่น ที่มาพร้อมกับฝนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังด้วยนั่นก็คือ สัตว์มีพิษ สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ที่ชื่นชอบสภาพอากาศชื้นแฉะ มักจะเข้ามาหลบฝน ตามซอกตามมุมของบ้าน เป็นเรื่องให้เจ้าของต้องมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ
วันนี้ HOSPETAL By PRS Center ขอนำเสนอวิธีสังเกตและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีที่น้องหมาน้องแมวได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษเหล่านี้ เพื่อให้เจ้าของสามารถรับมือกับอันตรายได้ มาเริ่มที่สัตว์มีพิษชนิดแรกกันเลย
ต้องบอกว่า งู จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม งูมีพิษ และ งูไม่มีพิษ ซึ่งอันตรายทั้งหมด ในกลุ่มของ งูที่มีพิษ เราคงไม่ต้องพูดถึง ส่วนกลุ่ม งูที่ไม่พิษ ต่างก็อันตรายไม่แพ้กัน น้ำลายของงูชนิดนี้ประกอบด้วยเชื้อโรคจำนวนมาก อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบ และ โรคแทรกซ้อนตามมาหลังจากถูกกัด
วิธีปฐมพยาบาล
การล้างปากแผลที่โดนกัด ให้บาดแผลอยู่ต่ำกว่าหัวใจ เจ้าของต้องจดจำลักษณะให้ขึ้นใจ เพื่ออธิบายให้กับสัตวแพทย์เพื่อหาเซรุ่มรักษาได้ต่อไป
ห้ามนำแผลแช่น้ำอุ่นเพราะจะทำให้พิษกระจายไปทั่วร่างกาย
พิษของแมงป่องมีฤทธิ์ทำให้น้องหมาน้องแมวเสียชีวิตได้ มีผลต่อระบบแระสารทและระบบเลือด พิษของแมงป่องอยู่ที่บริเวณหาง ลักษณะแผลเมื่อได้รับพิษจะมี 1 รู เจ็บปวดมาก อาจมีอาการน้ำลายฟูมปาก อาเจียน อ่อนแรงร่วมด้วย
ปฐมพยาบาล
สามารถใช้วิธีเดียวกับงูได้เลยนะคะ และรีบพาน้องส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
มีพิษ แต่ไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากถูกตะขาบกัดจะพบรอยเขี้ยว 1-2 แผล แต่บาดแผลจะไม่ลึกเท่า งู พิษจะทำให้เจ็บปวด แดง ร้อน
วิธีปฐมพยาบาล
โดนการหาตำแหน่งแผลแล้วพยายามไล่เลือดออกเบาๆ ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ ถ้าเป็นไปได้ประคบเย็น แล้วเฝ้าดูอาการปวดบวม 2-3 ชั่วโมงหากไม่ดีขึ้นให้รีบพามาพบสัตวแพทย์
ส่วนมากน้องหมาน้องแมวชอบคาบคางคกมาเล่น โดยไม่รู้ว่าคางคกเป็นสัตว์มีพิษ โดยพิษของคางคกนั้นจะอยู่บริเวณผิวหนัง เลือด และรังไข่ เวลาคางคกหลังพิษออกมาจะมีลักษณะเป็นยางเมือกสีขาวๆ ส่งผลให้ระคายเคียงที่ปากและใบหน้า เกิดการอักเสบ
วิธีปฐมพยาบาล
หากเมื่อได้รับพิษในช่วงแรกให้ล้างปากด้วยน้ำสะอาด ชะล้างเอาพิษออกมาให้ได้มากที่สุด ห้ามกลืน
หากโดนพิษมาสักระยะนึงแล้ว มีอาการหน้าบวม ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพบสัตวแพทย์
หลายคนเข้าใจว่า กิ้งกือ เป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษ แต่ที่จริงแล้ว กิ้งกือ มีพิษนะเออ แต่จะเป็นพิษที่ไม่รุนแรง คล้ายกับพิษของคางคก โดยตำแหน่งของพิษจะอยู่บริเวณด้านข้างลำตัว มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี และเช่นเคยน้องหมาน้องแมวจะได้รับพิษเมื่อคาบ กิ้งกือ มาเล่น ทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง
วิธีปฐมพยาบาล
สามารถใช้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเช่นเดียวกับคางคกได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราสามารถช่วยน้องๆ ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้
อ่านเพิ่มเติมจากบทความนี้ : การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับภาวะฉุกเฉินในสัตว์เลี้ยง