ทาสแมวควรรู้
“สก๊อตติช โฟลด์ หูพับ”
มีความเสี่ยงเป็นโรค OCD กว่า 90%
โรคทางพันธุกรรม รู้ก่อนป้องกันได้ 

อาจมีคนเคยได้ยินมาแล้วว่า ห้ามผสมพันธุ์ระหว่าง Scottish Fold หูพับกับหูพับ ถึงแม้จะมีความน่ารักและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ ภาวะหูพับนี้ถือเป็นความผิดปกติของยีนในแมวสายพันธุ์ Scottish Fold และสายพันธุ์อื่นๆ ยิ่งถ้ามีการผสมพันธุ์กันระหว่าง Scottish Fold หูพับกับหูพับ แล้ว จะส่งต่อความผิดปกติของยีนนี้ไปสู่รุ่นลูกได้ และส่งผลให้ลูกแมวที่เกิดขึ้นมาใหม่ มีร่างกายที่ไม่แข็งแรงได้นั่นเอง
ใบนทความนี้ HOSPETAL จะมาเล่าให้ฟังและอยากให้ทุกคนเข้าใจถึงลักษณะหูพับในแมวกันค่ะ

สังเกตอย่างไร ? ว่า สก๊อตติช โฟลด์ แบบไหนถึงมีลักษณะหูพับ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจแมวสายพันธุ์ Scottish Fold กันก่อน ด้วยความที่แมวสายพันธุ์นี้มีความโดดเด่นในเรื่องของหน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารักแล้ว ยิ่งมีลักษณะของหูที่พับลงมาผสมด้วยนั้น จะยิ่งเพิ่มความน่ารักขึ้นไปแบบทวีคูณ จนหลายคนอธิบายไว้ว่า สายพันธุ์ Scottish Fold มีหน้าตาคล้ายกับ นกฮูก นั่นเอง

แต่ความจริงแล้ว แมวสายพันธุ์ Scottish Fold นั้น ไม่ได้มีแค่หูพับเพียงอย่างเดียว เราสามารถจำแนกแมวพันธุ์ Scottish Fold ออกเป็นกลุ่ม 2 กลุ่มได้ง่ายๆ คือ

1. แมวสายพันธุ์ Scottish Fold หูตั้ง (Straight ears) ลักษณะปลายหูจะชี้ขึ้นฟ้า ตั้งตรงสนิท ฐานหูกว้าง

รูป : สก๊อตติช โฟลด์แบบหูตั้ง

2. แมวสายพันธุ์ Scottish Fold หูพับ Fold ears โดยสามารถแยกระดับการพับของหูได้ 3 ระดับ

• Single Fold : พับปลายใบหู หรือพับลงมาประมาณ 1 ใน 3 ของใบหู
• Double Fold : พับกลางใบหู หรือพับลงมาประมาณ 2 ใน 3 ของใบหู
• Triple Fold : พับตั้งแต่โคนหูเลย

รูป : สก๊อตติช โฟลด์แบบหูพับ

อย่างไรก็ตาม หูของ Scottish Fold อาจดีดหรือเด้งได้ในภายหลัง ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม และสภาพแวดล้อมภายนอก และที่สำคัญ ลูกแมว Scottish Fold ทุกตัวนั้น ตอนคลอดใหม่ๆ จะหูตั้งเหมือนกันทุกตัว จะเริ่มสังเกตได้ว่าใบหูเริ่มพับลงมาช่วงประมาณ 3 สัปดาห์

ทำไมแมว สก๊อตติช โฟลด์ ที่มีลักษณะหูพับ ถึงอันตราย

โดยในทางการแพทย์นั้นถือได้ว่าลักษณะหูพับนั้นเป็น “เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม” หรือ “โรคทางพันธุกรรม” (Genetic disease) กันเลยทีเดียว เพราะกว่า 90% ของแมว Scottish Fold ที่หูพับจะมีการกลายพันธุ์ของยีนที่ทำให้เกิดโรค Scottish fold Osteochondrodysplasia

เพราะการให้กำเนิดลูกแมว 1 ตัวนั้น จะมีการส่งต่อหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ไปหล่อเลี้ยงให้ตัวอ่อนได้เจริญเติบโตขึ้นมาได้ และสิ่งสำคัญที่ถูกส่งต่อมาด้วยนั้นคือ “พันธุกรรม” พูดง่ายๆ คือ พ่อมีขนสีขาว แม่มีขนสีดำ ลูกอาจะมีทั้งสีขาวและสีดำได้ แต่ไม่มีทางที่จะเป็นสีส้มได้อย่างแน่นอน เป็นต้น

ทีนี้ “พันธุกรรม” ที่ถูกส่งต่อมาหลายอย่างๆ นั้น มันรวมไปถึงโรคที่แฝงมากับพันธุกรรมและยีนที่ผิดปกติมาด้วยนั่นเอง

ต่อจากนี้ขอใช้คำว่า Normal = มียีนปกติ , Mutant = มียีนผิดปกติ

เราจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 กรณี

1.Normal / Normal กรณีนี้จะถือว่ามีความปกติโดยสมบูรณ์ทั้งจากพ่อและแม่ ลักษณะภายนอกที่มองเห็น คือ ไม่มีลักษณะหูพับ ไม่มีโรค OCD และไม่สามารถส่งต่อสู่รุ่นลูก

2.Mutant / Mutant กรณีนี้คือแน่นอนว่าได้รับความผิดปกติจากทั้งพ่อและแม่แบบเต็มๆ มีลักษณะหูพับ มีความเสี่ยงเป็นโรค OCD แบบรุนแรง และส่งต่อสู่รุ่นลูกได้

3.Normal / Mutant หละ ? แบบนี้ยังไงกันนะ จะหูตั้ง หรือ หูพับ

คำตอบคือ โรค OCD เป็นโรคที่ค่อนข้างเก่ง คือ มีความผิดปกติ(Mutant) จากฝั่งเดียวไม่ว่าจะจากพ่อหรือจากแม่ ก็จะแสดงอาการของโรคได้ (เฉพาะในกลุ่มสายพันธุ์ Scottish Fold นะ)แต่อาการจะไม่รุนแรงเท่าแบบ Mutant / Mutant

ดังนั้นในเคส Normal / Mutant คือ มีลักษณะหูพับ และ มีโรค OCD และส่งต่อสู่รุ่นลูกได้
เพราะจากการศึกษาพบว่า เมื่อนำแมวสายพันธุ์ Scottish Fold ที่มีลักษณะหูพับ มาตรวจพันธุกรรมแล้วพบว่า กว่า 90% นั้นมีความผิดปกติและเป็นโรค OCD ส่วนอีก 10% นั้นมีอาการหูพับจากปัจจัยอื่น

โรค OCD คืออะไร ?

ขอบคุณที่มา : Purr-sonalized Care—Scottish Fold Cat Health (drtreat.com)

โรค Osteochondrodysplasia (OCD) หรือ โรคภาวะกระดูกเจริญผิดปกติของยีนหูพับ
แต่ถ้าการกลายพันธุ์แบบ mutation/mutation ก็จะมีอาการรุนแรงมากๆ เช่น กระดูกเท้า ขา กระดูกสันหลังผิดรูป ข้อเสื่อมรุนแรง ขยับตัวได้ลำบากและมีความเจ็บปวด

การรักษาจะเป็นการประคับประคองเป็นหลัก ยังไม่มีการรักษาที่จำเพาะ และอาจต้องทำการผ่าตัด หากเกิดความผิดปกติในส่วนที่ทำให้เกิดปัญหากับการใช้ชีวิตซึ่งก็ไม่สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ในทุกกรณี

จริงๆแล้ว "ยีนหูพับ" นี้ มันไม่ได้ทำให้แค่หูเกิดการพับ หากพูดให้ชัดเจนและครอบคลุมก็คือ
เป็นยีนที่ทำให้กระดูกอ่อนของร่างกายเกิดการบิดงอ ผิดรูป ขาดการยืดหยุ่น ดังนั้นจุดที่เป็นกระดูกอ่อนและเห็นชัดที่สุดก็คือ "หู" ซึ่งในร่างกายนั้น ไม่ได้มีกระดูกอ่อนแค่ “หู” เท่านั้น

ยังมีส่วนอื่นๆในร่างกายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตามข้อต่อต่างๆ หรือหมอนรองกระดูกสันหลังเป็นต้น

การมียีนหูพับตัวนี้อยู่จึงอาจมีการส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆในร่างกายได้อีก ทางการแพทย์จึงเรียกว่า "โรคทางพันธุกรรม"

“จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถรู้ทัน โรค OCD ได้ก่อน”

HOSPETAL By PRS Center มีบริการตรวจโรคพันธุกรรมเฉพาะสายพันธุ์ Scottish Fold  ซึ่งสามารถตรวจได้ทุกช่วงอายุ และใช้ผลได้ตลอดชีวิต การที่ทราบผลตั้งแต่อายุยังไม่มาก จะเป็นข้อมูลที่สำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพ และส่งผลให้คุณภาพชีวิตของน้องแมวสายพันธุ์ Scottish Fold มีอายุที่ยืนยาว อยู่กับเราไปได้นานๆ